Ship ของกลับเมืองไทย

No Gravatar

สิ่งหนึ่งที่นักเรียนไทยทุกคนที่เรียนจบและจะต้องกลับเมืองไทยต้องทำ ก็คือการชิ๊ปของใช้ส่วนตัวกลับเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องคอมพ์ เอกสารตำราเรียน รวมไปถึงของฝากเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ข้อที่ควรคำนึงถึงอย่างแรกก็คือ เราจะเอาอะไรกลับได้บ้าง และจะต้องเสียภาษีนำเข้ารึป่าว มีอะไรบ้างที่ไม่จำเป็นต้องเอากลับ หรือขายทิ้งจะดีกว่ารึป่าว ผมแนะนำให้คิดดีๆซักนิดนึง เพราะการขนของกลับเมืองไทยคราวนี้จะต้องชิ๊ปกลับกับบริษัทชิ๊ปปิ้ง สิ่งของต้องลงเรือ และใช้เวลาเป็นเดือน กว่าที่ของจะไปถึงเมืองไทย ที่สำคัญเค้าคิดราคาตามปริมาตร ไม่ใช่น้ำหนัก เพราะฉะนั้นจะเอาอะไรกลับต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าด้วย

บริษัทที่ชิ๊ปสิ่งของกลับเมืองไทยส่วนใหญ่จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ตามเมืองใหญ่ๆ เช่น New York, Los Angeles, Chicago, San Franscisco, etc. แต่เราสามารถติดต่อบริษัทให้มารับของหรือเราส่งของไปยังสาขาที่เค้ามีตามรัฐต่างได้ อันนี้ต้องลองติดต่อกันดูนะครับ

ข้อแนะนำในการส่งของกลับเมืองไทย

  • ของใช้ที่ไม่จำเป็น ผมแนะนำให้ทำการประกาศขายตามบอร์ดของยู หรือขายให้คนไทยกันเองนี่แหละ ยกให้ฟรีๆก็ได้ ควรทำแต่เนิ่นๆ อย่างจะขายรถต้องเผื่อเวลาไว้ซักเดือนนึงเลย (รถคงไม่ต้องขนกลับเมืองไทยนะครับ :-) )
  • เครืองใช้ไฟฟ้าที่เป็น 110v แนะนำว่าอย่าขนกลับจะดีกว่า เพราะต้องไปหาหม้อแปลงไฟเป็น 220v วุ่นวาย ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ adapter ก็ว่าไปอย่าง เพราะสามารถไปหาซื้อ adapter ที่เป็นไฟ 220v ที่เมืองไทยเปลี่ยนได้ ถ้าเป็นพวกเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มือถือ ที่เมืองไทยราคาก็สูสี (ได้ข่าวว่าซื้อ iPhone หรือ Blackberry กลับไปก็ไม่ค่อยคุ้มแล้ว เพราะต้องซื้อ Plan ด้วย เสียค่า cancellation fee หลายร้อย)
  • เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะขนอะไรกลับ ก็จัดการแพ็คลงกล่องให้เรียบร้อย อันไหนที่ยังจำเป็นต้องใช้อยู่ก็แพ็ควันท้ายๆก็ยังทัน พยายามท่องไ้ว้ว่าของทุกชิ้นที่เอากลับมีค่าใช้จ่าย
  • เมื่อทราบแล้วว่าจะเอากลับกี่กล่องก็ให้ทำการ ทำหมายเลย label ที่กล่องพร้อมกับเขียนว่าในกล่องมีอะไรคร่าวๆ เขียนชื่อที่อยู่ อีเมล์ เบอร์โทร เป็นภาษาอังกฤษ ไว้ให้เรียบร้อย ควรระบุจำนวนกล่องทั้งหมดมีอยู่เท่าไหร่ใน label ด้วย เช่นถ้ามีอยู่ 10 กล่อง บนกล่องที่  1 ก็เขียนว่า 1/10, กล่องที่ 2 ก็เป็น 2/10 ไปเรื่อยๆ
  • จากนั้นก็ให้เขียนรายการกล่องทุกกล่องไว้ในกระดาษแผ่นเดียวเพื่อใช้เป็น Packing List เวลาขนไปส่งที่บริษัทชิ๊ปปิ้ง
  • ควรติดต่อนัดหมายกับบริษัทชิ๊ปปิ้งแต่เนิ่นๆ เผื่อว่าจะได้รับคำแนะนำในการแพ็คสิ่งของ อีกอย่างบริษัทชิ๊ปปิ้งเค้ามีขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่น พวกเครื่องซักผ้า ตู้เย็นใหญ่ๆ ซื้อกลับเค้าแล้วเค้าจัดการส่งไปพร้อมกับของของเราเลย อันนี้ผมไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้จะคุ้มรึป่าวนะครับ แต่ถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อน นักเรียนไทยก็นิยมซื้อกลับไปเหมือนกัน

ของที่ได้รับการยกเว้นภาษี

“ของใช้ในบ้านเรือนที่ใช้แล้วทีเจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตน เนื่องใน การย้ายภูมิลำเนา และมีจำนวนพอสมควรแก่ฐานะ
หมายเหตุ :ของส่วนตัวและของใช้ในบ้านเรือน จะต้องนำเข้ามาถึง ประเทศไทยไม่เกินหนึ่งเดือน ก่อนที่ผู้นำของเข้าเข้ามาถึง หรือไม่เกิน 6 เดือนนับแต่ วันที่ผู้นำของเข้า เข้ามาถึง อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจขยายกำหนดเวลาดังกล่าว ข้างต้นได้ เมื่อเห็นว่ามีพฤติการณ์พิเศษ”

ข้างบนนี้เป็นภาษากฏหมายนะครับ จริงๆแล้วเราเอาของที่เราใช้ประจำวันตอนที่เราเรียนอยู่กลับได้ทุกอย่างแหละครับ ของบางอย่างถ้าขนกลับเยอะเช่นเครื่องคอมพ์สามสี่เครื่อง อันนี้ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ศุลกากรแล้วครับ คือเค้ากลัวเรามาขายต่อน่ะ

ของดังต่อไปนี้ห้ามนำกลับมาด้วยครับ

  1. อาวุธปืน กระสุนปืน และดินปืน
  2. สารเคมีทุกชนิด ที่มีฉลากติดอยู่ หรือป้ายกํากับ
  3. นํ้ามันเชื้อเพลิงทุกชนิด
  4. แบตเตอรี่ (Battery (wet))
  5. ภาชนะหรือสินค้าที่มีฉลากหรือข้อความ ระบุคําว่า “U.N.” หรือ “CLASS”

สิทธิ์ในการขนของกลับเมืองไทย

นักศักษามืสิทธิที่จะส่งของกลับได้เกินกว่า 1 ครั้ง ครั้งแรกของจะต้อง ถึงกรุงเทพฯไม่เกินหนึ่งเดือนก่อนที่ตัวเองจะมาถึง ครั้งต่อไปหรือครั้งสุดท้ายจะต้อง ไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันที่ผู้นำของเข้ามาถึง ในกรณีนี้นักศึกษาจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรรับทราบ และประทับตรา บนหนังสือเดินทางว่าจะมีสิ่งของตามมาภายหลัง

การไปเอาของออกจากท่าเรือคลองเตย

ที่ท่าเรือคลองเตยหรือสถานีที่เก็บของเอกชนต่างๆ บริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ จะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรแผนกขาเข้าประจําอยู่ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับผู้รับ (นักศึกษา) ที่นําของใช้ส่วนตัวเข้า ฉะนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการออก ของจากบริษัท SHIPPING ที่ท่าเรือ ซึ่งเป็นการเสียเงินค่าบริการโดยเปล่าประโยชน์

หลักฐานการทำพิธีการออกของที่ผู้รับจะต้องนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย

  1. หนังสือเดินทาง
  2. ใบ D.O. (DELIVERY ORDER) รับได้จากบริษัทตัวแทนที่กรุงเทพฯ
  3. ใบ BILL OF LADING
  4. PACKING LIST, หนังสือแจ้งรายการของใช้ส่วนตัว

ในกรณีที่ผู้รับคิดว่ามีของต้องภาษี ซึ่งไม่ได้อยู่ในพิกัดยกเว้นอากร ดังที่ กล่าวไว้แล้วตอนต้น หรือไม่มีเวลาที่จะดำเนินพิธีการด้วยตัวเอง และจำเป็นต้อง การใช้บริการของบริษัท SHIPPINING เป็นตัวแทนออกของให้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ http://www.geocities.com/tsafl/freight.html

รายชื่อบริษัทคนไทยในอเมริกาที่รับส่งของกลับเมืองไทย

Amarin Overseas Shipping
http://amarinusa.com/
Address: 4201 W. Wrightwood Ave.
Chicago, IL 60639
Toll Free: (800) 678.1847
Cell: (773) 251-3838
Fax: (773) 384-1588
E-Mail: manoch97@yahoo.com

Lanna Overseas Shipping.
http://www.lannashipping.com/
Address (Office):
625 LeClaire Ave,
Wilmette, IL 60018
Address (warehouse):
3641 South Washtenaw,
Chicago, IL 60632
Tel: (847) 730-7492
Fax: (773) 640-5202
E-mail: lannaship@eartlink.net

Siam International Freight Lines
http://www.siaminternational.com
11014 S. La Cienega Blvd.,
Inglewood, CA 90304
Toll Free: (866) 338.1284
Tel: (310) 338-1248
Fax: (310) 338-1475
EMAIL:  siamint@aol.com

Rama Enterprise Inc.
http://www.ramanyusa.com
36-06 48th Avenue
Long Island City, NY 11101
Tel. (718) 932-2226-7
Fax. (718) 932-2228
Email: ramanyusa@aol.com

Teva Shipping Inc.
Chicago, IL
Tel: (312) 861.1300
Fax: (312) 456.0200